ผู้บริหาร

นายมงคล ชัยวุฒิ

นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย

08-9955-6886

msgคุยกับนายกเทศมนตรี

นางจิราภา ชินสรนันท์

ปลัดเทศบาลตำบลเชิงดอย

053-104900 ต่อ 36

logoข้อมูลเทศบาล

เมนูหลัก

ข่าวประชาสัมพันธ์

มาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดขยะกันเถอะ

  • 23 กรกฎาคม 2563
  • อ่าน 374 ครั้ง

                  ปัจจุบันภาชนะใส่อาหารไม่ว่าจะเป็นจาน  ชาม หรือกล่อง ที่เราพบเห็นทั่วไปและหาซื้อได้ง่าย
นิยมทำมาจากพลาสติก  พอเราใช้เสร็จ พลาสติกเหล่านี้ก็จะกลายเป็นขยะที่ย่อยสลายยาก
พลาสติก 1 ชิ้น ต้องใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 450 ปี หากนำไปเผา ก็จะทำให้เกิดสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
ที่เป็นมลภาวะทำให้โลกร้อน ส่งผลต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อม
                 ปัจจุบันบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Packaging) นับว่าเป็นอีกหนึ่งในคำตอบของ
การช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน
                 ภาชนะที่ผลิตมาจากธรรมชาติ  มีอะไรบ้างวันนี้เราจะเอาข้อมูลมาฝากกันค่ะ


1.ภาชนะจากใบเล็บครุฑลังกา

                        ใบเล็บครุฑลังกา  เป็นพืชที่มีใบค่อนข้างหนา ลักษณะคล้ายชาม สามารถนำมาเป็นภาชนะใส่อาหารต่างๆได้
ไม่ว่าจะเป็นของทอด ของนึ่ง  และของทานเล่น กินเสร็จก็สามารถทิ้งได้เลย ใบเล็บครุฑจะย่อยสลายเองตามธรรมชาติ
แต่สิ่งสำคัญอยู่ตรงที่ความครีเอทและการใส่ใจสิ่งแวดล้อม  จัดว่าเป็นไอเดียที่เก๋มากสำหรับยุคสมัยนี้  ว่าแล้วก็ไปหาปลูกไว้สักต้นดีกว่า
ได้ทั้งความสวยงามและประโยชน์อีกด้วย


2.ภาชนะจากกล้วย (บานาบ่ามาเช่)
                        นอกจากใบตองที่เรานำมาทำเป็นภาชนะสำหรับห่อและใส่อาหารต่างๆแล้ว ปัจจุบันยังมีการนำใบตอง 
และหยวกกล้วยมาผลิตเป็นจาน ชาม โดยใช้เทคนิคการขึ้นรูปคล้าย ๆ กับเปเปอร์มาเช่ โดยที่ไส้ตรงกลางเป็นกระดาษ 
อัดหยวกกล้วยเป็นผิวหน้าด้วยมือทุกใบ และเคลือบทับด้วยน้ำมันแบบฟู้ดเกรด  สามารถใส่อาหารรับประทานได้คล้ายกับภาชนะทั่วไป 
แต่จะต้องหลีกเลี่ยงพวกแกง หรือเมนูที่มีน้ำและไม่ควรแช่น้ำไว้นาน  การล้างทำความสะอาดนั้นก็เหมือนภาชนะที่ทำจากไม้ทั่วไป 
ล้างด้วยน้ำยาล้างจานผึ่งลมให้แห้ง


3.ภาชนะจากใบทองกวาว 
                        ใบทองกวาวเป็นพืชสารพัดประโยชน์  มีสรรพคุณหลากหลายไม่ว่าจะแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ 
รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จากใบที่มีลักษณะค่อนข้างใหญ่  ภาชนะที่ทำจากใบทองกวาวสามารถใส่อาหารได้ทั้งของคาว หวาน 
รวมไปถึงเมนูของร้อน เมนูทอด และแกงต่างๆ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่า จะมีการรั่วซึม  ต้องบอกเลยว่าถ้วยจากใบทองกวาว
สามารถใส่อาหารทิ้งไว้เป็นเวลา 2-3 วันได้โดยไม่รั่วซึมแถมยังคงรูปทรงเดิม ไม่ย้วย ไม่แหลกสลายไปในระหว่างทางอย่างแน่นอน


4.ภาชนะจากกาบหมาก 
กาบหมาก จากสิ่งที่ดูไร้ค่าในสวนหมากของชาวอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ที่แต่เดิมก็ปลูกต้นหมากกันอย่างแพร่หลาย 
ส่วนของลูกหมากก็เก็บไปขายสร้างรายได้ แต่สิ่งที่หลงเหลือไว้ก็คือกาบหมากที่ร่วงหลุดอยู่  แบรนด์”วีรษา”(Veerasa) 
เล็งเห็นประโยชน์จึงนำกาบหมากมาแปรรูปให้เป็นจานใส่อาหาร โดยนำกาบหมากมาล้างทำความสะอาด นำไปพึ่งแดดให้แห้งสนิท 
จากนั้นนำมาตัดด้วยเครื่อง แล้วบรรจุขาย ข้อดีของจาน-ชามกาบหมากคือมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 
สามารถนำเข้าไมโครเวฟและเตาอบได้อย่างปลอดภัย ใส่อาหารได้ทุกประเภท


5.ภาชนะจากผักตบชวา 
ปัจจุบันผักตบชวาสามารถนำมาทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันได้หลายอย่าง 
เช่น การทำกระเป๋า การทำจาน การทำกล่อง การทำเก้าอี้จากผักตบชวา ไปจนถึงการทำเสื้อผ้าจากผักตบชวา 
เรียกได้ว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้จริงและสามารถเพิ่มอาชีพให้กับผู้ทำได้อีกด้วย หากราคายังค่อนข้างสูง 
ถ้าผลิตในปริมาณมาก ก็จะประหยัดมาก


6.ภาชนะจากชานอ้อย 
ต้นกำเนิดของ “กล่องชานอ้อย” ถูกคิดค้นขึ้นและใช้งานจริงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว โดยประเทศนำร่องที่ใช้กล่องชานอ้อย 
ได้แก่ อังกฤษ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และฝั่งเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น โดยไม่เพียงแต่ทำเป็นกล่องใส่อาหารคล้ายกล่องโฟมเท่านั้น 
แต่กล่องชานอ้อนยังถูกนำมาขึ้นรูปให้ใช้งานได้หลากหลายแบบ ทั้งจาน ชาม ถ้วย แก้วแบบใช้แล้วทิ้ง รวมไปถึงถาดหลุมที่ใช้กันในโรงอาหารอีกด้วย
นอกจาก “กล่องชานอ้อย” จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว กระบวนการผลิตกล่องชานอ้อนก็เรียกได้ว่าเรียบง่ายไม่ซับซ้อน
และถือเป็นตัวอย่างของการรีไซเคิลที่ดีมากๆ เนื่องจากเป็นการใช้เยื่อกระดาษชานอ้อยที่เหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาล
 นอกจากนั้นยังสามารถใช้พลังงานไอน้ำแทนการใช้ไฟฟ้าในการผลิต จึงไม่เกิดของเสียและยังไม่มีการใช้คลอรีนในการฟอกสี 
หากแต่ใช้แสง UV ธรรมชาติ จึงมั่นใจเรื่องความสะอาดและปลอดภัยได้แน่นอน ‘บรรจุภัณฑ์ชานอ้อย’ ถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก 
เพราะใช้พลังงานธรรมชาติและเมื่อฝังกลบก็ใช้เวลาในการย่อยสลายเพียง 45 วันเท่านั้น


7.ภาชนะจากใยพืช
    

8.ภาชนะจากพลาสติกผสมฟางข้าวสาลี 


ภาชนะจากพลาสติกผสมฟางข้าวสาลี ถูกคิดค้นโดยนักวิจัยชาวจีน ที่ต้องการหาส่วนผสมจากธรรมชาติ 
เพื่อมาช่วยลดปริมาณการใช้เมล็ดพลาสติกในการผลิตสินค้าต่างๆ จนพบว่า ฟางข้าวสาลีเหมาะที่จะนำมาใช้มากที่สุด 
โดยใช้กรรมวิธี คือ นำฟางข้าวสาลีมาอัดเป็นเม็ด แล้วผสมกับเม็ดพลาสติก เพียง 5% จากนั้นจึงนำไปขึ้นรูป 
ทำให้แก้วน้ำจากฟางข้าวมีความแข็งแรงคงทนเทียบเท่ากับแก้วน้ำพลาสติกทั่วไป ใช้เวลาย่อยสลายด้วยการฝังดินเพียง 3 ปี 
เร็วกว่าพลาสติกที่ใช้เวลาหลายสิบปี และยังมีความพิเศษตรงที่แก้วจะมีกลิ่นหอมฟางสาลีติดอยู่ไปตลอด โดยที่ไม่มีรสหรือเป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด


9.ภาชนะจากพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic)


สำหรับใครที่ไม่สะดวกในการเลือกซื้อ ภาชนะจากธรรมชาติ   ก็มีอีก 1 ทางเลือก ที่สะดวก นั่นคือเลือกใช้พลาสติกชีวภาพ ซี่งเป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้
 เพราะผลิตจากเม็ดพลาสติกชีวภาพซึ่งสลายตัวได้ จะสามารถสลายตัวกลายเป็นสารชีวมวล น้ำและคาร์บอนไดออกไซค์ได้ในสภาพที่เหมาะสม เช่น ในกองปุ๋ยหมักหรือในดิน 
โดยไม่ทิ้งสารตกค้างต่อสิ่งแวดล้อม ภายในเวลาเพียง 6 เดือน โดยต้องมีสภาวะที่เหมาะสมในการสลายตัว คือ สภาวะที่จุลินทรีย์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ในกระบวนการหมัก
หรือการฝังกลบในดิน ทั้งนี้การสลายตัวช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณจุลินทรีย์ รวมถึงขนาดและความหนาของผลิตภัณฑ์ด้วย




อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://goodlifeupdate.com/healthy-food/196428.html

           



แชร์หน้านี้:


ลิงค์หน่วยงานต่างๆ