ผู้บริหาร

นายมงคล ชัยวุฒิ

นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย

08-9955-6886

msgคุยกับนายกเทศมนตรี

นางจิราภา ชินสรนันท์

ปลัดเทศบาลตำบลเชิงดอย

053-104900 ต่อ 36

logoข้อมูลเทศบาล

เมนูหลัก

ข่าวประชาสัมพันธ์

การเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากภาวะหมอกควันและไฟป่า

  • 31 มีนาคม 2557
  • อ่าน 1,156 ครั้ง


การดูแลสุขภาพเนื่องจากควันไฟป่า

ควันไฟป่าและหมอกควันจากไฟป่า ประกอบด้วยอะไร

ควันไฟป่าเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์จึงมีเขม่าควันและก๊าซพิษต่างๆ เช่น ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไซด์ ก๊าซระเหยจากสารกลุ่มไฮโดรคาร์บอนต่างๆ ฯลฯ รวมทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมโครเมตร ที่เรียกว่า พีเอ็มเท็น(PM10) ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กพอที่จะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของคนได้ ฝุ่นละอองเหล่านี้จึงมีทั้งที่เป็นเขม่าควันธรรมดาหรืออาจ

รวมตัวเป็นเขม่าควันที่มีสารประกอบจากสารเคมีอันตรายบางชนิดปนเปื้อนได้

ควันไฟป่าและหมอกควันจากไฟป่า มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร ?

- ฝุ่นละอองของคาร์บอนจะมีผลระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ อันได้แก่ จมูก คอ หลอดลมและปอด ถ้าฝุ่นละออง ขนาดเล็กกว่า 10 ไมโครเมตร จะสามารถเข้าสู่ปอดได้ และมีผลทำให้ปอดอักเสบ

- ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ มีผลทำให้ขาดออกซิเจน

- สารไดออกซิน ก๊าซจากสารอินทรีย์ระเหย และก๊าซโอโซน มีผลทำให้ระคายเคืองทางเดินหายใจและทำให้ปอดอักเสบ และอาจทำให้เกิดมะเร็งได้ถ้าได้รับสารนี้นานๆหลายปี

- ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ จะมีผลระคายเคือง ทางเดินหายใจ ทำลายเนื้อเยื่อปอด อาจทำให้ปอดบวมน้ำได้และเมื่อผสมกับน้ำในร่างกายจะมีฤทธิ์เป็นกรด อย่างไรก็ตาม หากควันไฟและหมอกควันดังกล่าว ลอยมาจากที่ไกล ฝุ่นละอองเขม่าควัน เถ้าลอยและก๊าซพิษก็จะเจือจาง เพราะเป็นกระแสลมพัด

อาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เป็นอย่างไร ?

- แสบตา ตาแดง

- มีน้ำลายไหล น้ำมูกไหล

- เจ็บคอ คออักเสบ

- ไอ หายใจลำบาก

- ในผู้ที่เป็นโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจ อาจมีอาการกำเริบได้

- ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน

ใครคือกลุ่มเสี่ยง ต่อผลกระทบต่อสุขภาพเนื่องจากควันไฟและหมอกควันไฟป่าที่ต้องดูแลสุขภาพมากเป็นพิเศษ ?

กลุ่มเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจและโรคปอด โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจและผู้ที่ทำงานที่เสี่ยงต่อการได้รับฝุ่นละอองและหมอกควันอยู่แล้ว เช่น คนงานในโรงงานโม่หิน คนงานก่อสร้าง ที่อยู่ในบริเวณที่มีควันและหมอกควันจากไฟป่า

ประชาชนจะดูแลป้องกันสุขภาพตนเองได้อย่างไร?

1. ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีควันไฟและหมอกควันให้ใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าที่ทำด้วยฝ้ายหรือลินินพันหลายทบมาคาดปากและ จมูกป้องกันควันไฟ และอาจพรมน้ำที่ผ้าดังกล่าวหมาดๆ เพื่อซับกรองก๊าซได้มากขึ้น

2. ผ้าที่ใช้คาดปากและจมูก และ/หรือหน้ากากป้องกันที่ใช้นั้น ถ้าสกปรกหรือเริ่มรู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก ซึ่งอาจเนื่องจากเขม่าควันเกาะติดอยู่จำนวนมากควรเปลี่ยนใหม่

3. บริเวณที่อยู่อาศัยที่ไม่มีระบบระบายอากาศ ระบบปรับอากาศ ต้องปิดประตูหน้าต่างไม่ให้ควัน เข้ามาในอาคาร และ พยายามไล่ควันออกจากบ้านเรือน เช่น เป่าพัดลมในทางเดียวให้ควัน ดังกล่าวออกจากบ้านเรือนสู่ภายนอก

4. ในห้องเรียน ศูนย์เลี้ยงเด็ก สถานพยาบาล ศูนย์การค้า หรืออาคารขนาดใหญ่ที่ต้องมีที่กรอง อากาศจากภายนอกอาคารเข้าสู่ในอาคารมีการเปลี่ยน/ล้างระบบกรองอากาศเป็นประจำ

5. ไม่เผาสิ่งใดที่เป็นการเพิ่มหมอกควันมากยิ่งขึ้น

6. คอยดูแลผู้ที่อยู่ในบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด โรคหัวใจ ผู้พิการ และ/หรือผู้ที่ไม่สามารถ ช่วยตัวเองได้ โดยพาออกจากที่ที่มีหมอกควันมากหาก มีอาการผิดปกติให้นำส่งแพทย์

7. คอยฟังข่าวเตือนภัย เพื่อดูและป้องกันตนเองให้ห่างจากสถานที่ที่มีภัยจากหมอกควัน ดังกล่าว

8. ถ้ามีอาการผิดปกติในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ มีไข้สูง,ไอ,เจ็บอก ให้รีบพบแพทย์เพื่อ ทำการรักษา



ค่ามาตรฐานสำหรับ PM 10

ค่าปกติ

< 120 ไมโครกรัม ต่อ ลบ.ม.

มีผลกระทบต่อสุขภาพกลุ่มเสี่ยง

120-130 ไมโครกรัม ต่อ ลบ.ม.

กระทบบุคคลทั่วไป

>300 ไมโครกรัม ต่อ ลบ.ม.



แชร์หน้านี้:


ลิงค์หน่วยงานต่างๆ